สุขภาพ : กินตามราศี
กินตามราศี เสริมดวง เติมพลัง ชีวิตปังในแบบสายมูสายกิน!
ราศีไหนต้องกินเผ็ด ราศีไหนต้องเลี่ยงของทอด ราศีไหนกินอะไรแล้วงานรุ่ง ความรักพุ่ง การเงินปัง!
วันนี้เราชวนมาส่องเทรนด์สายมูเวอร์ชั่น "สายกิน" กับ กินตามราศี เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำให้ทุกมื้ออาหารของคุณกลายเป็นการเสริมพลังชีวิตแบบไม่ต้องพึ่งดวงดาว แต่พึ่งตะเกียบ! ????✨
ทำไมต้อง “กินตามราศี”?
หลายคนอาจจะงง...แล้วมันเกี่ยวอะไร?
คำตอบคือ มากกว่าแค่ความเชื่อ มันคือพลังงานของจักรวาลที่เชื่อมโยงกับสุขภาพ อารมณ์ และไลฟ์สไตล์ของคุณโดยตรง
ศาสตร์ "กินตามราศี" ไม่ได้มีไว้แค่เอาฮา แต่มันช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น และรู้จักเลือกอาหารที่ เหมาะกับธาตุประจำราศี ซึ่งส่งผลต่อสมดุลในร่างกายและพลังใจ
ดวงอาจไม่เปลี่ยน แต่เมนูอาหารเปลี่ยนได้ทุกมื้อ ????
กินตามราศีทั้ง 12 แบบจัดเต็ม
♈ ราศีเมษ (21 มี.ค. - 19 เม.ย.)
สายลุย ไฟแรง ต้องการพลังเผ็ดร้อน
-
ควรกิน: อาหารเผ็ดจัดจ้าน เช่น ส้มตำ ไก่ทอดเกาหลีเผ็ด ซุปกิมจิ
-
เลี่ยง: ของมัน ของทอดที่หนักเกินไป
-
เสริมดวง: ดื่มชาร้อนหรือมะนาวโซดาเพิ่มความสดชื่น ปลุกไฟให้ชีวิต
♉ ราศีพฤษภ (20 เม.ย. - 20 พ.ค.)
สายสโลว์ไลฟ์ รักความหรูหรา ต้องกินแบบมีระดับ
-
ควรกิน: ชีส เบเกอรี่ ขนมหวานพรีเมียม ซูชิ
-
เลี่ยง: อาหารดิบจัด หรือรสจัดจนเกินไป
-
เสริมดวง: ชานมไข่มุกกับไข่มุกทองคำ หรูหราสายมูตัวแม่!
♊ ราศีเมถุน (21 พ.ค. - 20 มิ.ย.)
พูดเก่ง สมองไว ต้องกินอะไรที่เบาแต่มีพลัง
-
ควรกิน: อาหารคลีน สลัด wrap หรือ smoothie bowl
-
เลี่ยง: ของเลี่ยน ของหวานจัด
-
เสริมดวง: ดื่มสมูทตี้ผลไม้สีเหลือง เสริมเสน่ห์และการเจรจา
♋ ราศีกรกฎ (21 มิ.ย. - 22 ก.ค.)
อารมณ์อ่อนไหว สายดูแลคนอื่น ต้องกินอะไรอุ่น ๆ
-
ควรกิน: ต้มยำ แกงจืด ข้าวต้ม อาหาร comfort food
-
เลี่ยง: อาหารแห้ง ๆ หรือเย็นเกินไป
-
เสริมดวง: น้ำเต้าหู้หรือน้ำขิง เพิ่มความอบอุ่นใจ
♌ ราศีสิงห์ (23 ก.ค. - 22 ส.ค.)
มั่นใจ ร้อนแรง ต้องกินอะไรที่ “เป๊ะปังอลังเวอร์”
-
ควรกิน: ปิ้งย่าง บุฟเฟ่ต์ ซีฟู้ด บาร์บีคิว
-
เลี่ยง: อาหารธรรมดาเกินไป จะทำให้รู้สึกเบื่อ
-
เสริมดวง: ไวน์แดง หรือ mocktail ที่ดูดีมีคลาส
♍ ราศีกันย์ (23 ส.ค. - 22 ก.ย.)
เจ้าระเบียบ สุขภาพดี ต้องกินอะไรเป๊ะ ๆ คลีน ๆ
-
ควรกิน: อาหารสุขภาพ โยเกิร์ต น้ำผักผลไม้
-
เลี่ยง: ของแปรรูป ขนมขบเคี้ยว
-
เสริมดวง: น้ำผึ้งมะนาว หรือชาเขียวออร์แกนิก
♎ ราศีตุลย์ (23 ก.ย. - 22 ต.ค.)
รักสวยรักงาม มีรสนิยม ต้องกินอะไรบาลานซ์
-
ควรกิน: อาหารญี่ปุ่น เมนูจานเดียวหรู ๆ
-
เลี่ยง: อาหารหนักเกินไป เครียดแล้วจะกินจุก
-
เสริมดวง: น้ำแร่ หรือ sparkling water หรู ๆ
♏ ราศีพิจิก (23 ต.ค. - 21 พ.ย.)
ลึกลับ ดึงดูดใจ ต้องกินอะไรที่เร้าอารมณ์นิด ๆ
-
ควรกิน: อาหารซี๊ด ๆ เช่น ยำต่าง ๆ ต้มแซ่บ
-
เลี่ยง: ของหวานจัด ๆ
-
เสริมดวง: ดาร์กช็อกโกแลต เสริมความหลงใหล
♐ ราศีธนู (22 พ.ย. - 21 ธ.ค.)
รักอิสระ ชอบเดินทาง ต้องกินอะไรง่าย ๆ พร้อมลุย
-
ควรกิน: สตรีทฟู้ด อาหารทานง่าย เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
-
เลี่ยง: เมนูยุ่งยากต้องเตรียมนาน
-
เสริมดวง: น้ำมะพร้าวสด เติมพลังแห่งการเดินทาง
♑ ราศีมังกร (22 ธ.ค. - 19 ม.ค.)
จริงจัง มีวินัย ต้องกินอะไรที่เพิ่มพลังสมอง
-
ควรกิน: ข้าวกล้อง ปลาย่าง อาหารโปรตีนสูง
-
เลี่ยง: ฟาสต์ฟู้ด อาหารหวาน
-
เสริมดวง: น้ำเต้าหู้ไม่หวาน เสริมสมาธิ
♒ ราศีกุมภ์ (20 ม.ค. - 18 ก.พ.)
แหวกแนว มีสไตล์ ต้องกินอะไรไม่ซ้ำใคร
-
ควรกิน: เมนูฟิวชั่น อาหารจากวัตถุดิบหายาก
-
เลี่ยง: อาหารซ้ำซากเดิม ๆ
-
เสริมดวง: เครื่องดื่มแปลก ๆ เช่น สมูทตี้สาหร่าย ชาเห็ด ฯลฯ
♓ ราศีมีน (19 ก.พ. - 20 มี.ค.)
ใจดี จินตนาการสูง ต้องกินอะไรละมุน ๆ
-
ควรกิน: ขนมหวาน พุดดิ้ง ซุปครีม
-
เลี่ยง: อาหารเผ็ด หรือของแข็ง
-
เสริมดวง: น้ำผลไม้สีม่วง เช่น น้ำองุ่น เสริมพลังจินตนาการ
สรุป: "กินตามราศี" ไม่ใช่แค่เรื่องกิน...แต่มันคือชีวิต!
การ "กินตามราศี" ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ แต่เป็นหนึ่งในวิธีเสริมพลังชีวิตแบบง่าย ๆ
ไม่ต้องดูฤกษ์ ไม่ต้องจุดธูป แค่เปิดเมนูให้ตรงกับดาว ก็พอแล้ว!
ถ้าคุณเป็นสายมูที่รักการกิน ลองเริ่มต้นปรับมื้ออาหารให้ตรงราศีดู แล้วคุณอาจจะพบว่า...
“บางครั้งการเปลี่ยนจานอาหาร ก็คือการเปลี่ยนโชคชะตาได้เหมือนกัน”
อยากรู้มากกว่านี้?
ติดตามบทความสายกินสายมูและไลฟ์สไตล์แบบจัดเต็มได้ที่ [YourWebsite.com]
หรือแชร์โพสต์นี้ให้เพื่อนรู้ว่า..."ชีวิตดีขึ้นได้ แค่เริ่มจากจานอาหาร!"
ต้องยอมรับว่าในยุคปัจจุบัน ที่แม้กระทั่งการกินและการนอนยังต้องรีบเร่ง ทำให้คนเรามีโอกาสใส่ใจในสุขภาพน้อยลง หรืออยากจะใส่ใจแต่เวลาและวิถีการดำเนินชีวิตที่รีบร้อนก็ไม่เอื้ออำนวยให้ ทำอย่างใจคิดได้ ซึ่งส่งผลทำให้คนในเมืองใหญ่มีแนวโน้มป่วยด้วยโรคอันเกิดจากวิถีของคนเมือง กันมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นโรคเครียด ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ปวดกระเพาะ ลำไส้บีบตัวบ่อย ทำให้ท้องเสีย หัวใจเต้นเร็ว หัวใจทำงานหนัก หรือโรคอ้วน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับความจริงร่วมกันก็คือ ทุกคนมีเลาคนละยี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากัน เพียงแต่เราจะปรับตั้งนาฬิกาชีวิตของเราให้เหมาะสมหรือไม่อย่างไรเท่านั้น เพราะทุกวันนี้มีรูปแบบการออกกำลังกายที่ง่ายๆ รวมถึงเมนูสุขภาพที่จะช่วยเสริมสุขภาพให้เลือกปฏิบัติมากมาย
**ออกกำลังง่ายๆ แม้ในออฟฟิศ
“หยวน ดราก้อนไฟฟ์” หรือนิธิชัย ยศอมรสุนทร นักร้อง – นักแสดงหนุ่มสุดหล่อ เจ้าของหุ่นฟิตเฟิร์มผู้หลงรักการออกกำลังกายและออกกำลังอยู่เป็นประจำ ได้สาธิตวิธีการออกกำลังกายแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ออกกำลังให้ยุ่งยาก และสามารถทำได้แม้อยู่ในออฟฟิศ
ท่าแรก เป็นท่าบริหารหน้าท้องที่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ
หยวนบอกว่า ปัญหารูปร่างของผู้หญิงส่วนใหญ่แล้วที่อยู่ที่หน้าท้อง โดยเฉพาะหน้าท้องส่วนล่าง ดังนั้นการออกกำลังกายเฉพาะส่วนครั้งละ 15 – 20 ที ทำประมาณ 3 – 5 เซ็ท จะเห็นผลในระยะเวลาไม่นาน หากทำสม่ำเสมอ โดยท่านี้ เริ่มจากนั่งลงบนเก้าอี้ ไม่ให้หลังพิงพนัก วางมือไว้บนที่เท้าแขนเพื่อช่วยเหนี่ยว เหยียดขาตรงชิดกัน จากนั้นงอเข่าเข้าจรดหน้าอกและยืดขาตรงวางบนพื้น เป็นอันเสร็จ 1 ครั้ง โดยการเล่นท่านี้จะรู้สึกเกร็งตึงบริเวณหน้าท้องโดยเฉพาะหน้าท้องส่วนล่าง
ท่าต่อมา เป็นท่าบริหารหน้าขาเพื่อการเสริมกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เหมาะสำหรับสาวออฟฟิศที่ต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้รับการใช้งานอย่างเพียงพอ การทำก็ไม่ยาก คล้ายท่าทางการเดินปกติ เพียงแต่เมื่อก้าวแล้วให้ย่อตัวลงมากกว่าปกติเพื่อให้กล้ามเนื้อขาได้ยืดและ รับน้ำหนักมากขึ้น ทำข้างละ 15 – 20 ครั้ง ประมาณ 3- 5 เซ็ท
ท่าที่สาม เป็นท่าบริหารหลังแขน ท่านี้เริ่มจากการนั่งเก้าอี้แบบหมิ่นๆ กะประมาณพอไม่ให้ร่วงลงมาเป็นใช้ได้ เท้าวางบนพื้นเหยียดตรงไปข้างหน้า มือเท้าเบาะนั่งด้านหลัง จากนั้นยกตัวให้พ้นเบาะนั่ง ใช้แขนยกตัวเองขึ้นลงโดยใช้น้ำหนักตัวเองเป็นเสมือนดัมเบลในการออกกำลังกาย ทำครั้งละ 15 – 20 ที ทำประมาณ 3 – 5 เซ็ท
หรือถ้าไม่ชอบการออกกำลังกายแบบนี้ ก็มีทางเลือกอีกแบบหนึ่ง อุปกรณ์การเล่นก็หาง่ายได้ในสำนักงาน คือขวดน้ำเปล่าใส่น้ำและปิดฝา วิธีการออกกำลังหลังแขนแบบใช้ขวดน้ำนี้ เริ่มจากก้มตัวลงพอประมาณ มือหนึ่งจับเก้าอี้ อีกมือถือขวดน้ำ จากนั้นออกแรงหัวไหล่และข้อศอกเพื่อยกขวดน้ำไปด้านหลัง หากทำท่าถูกจะรู้สึกเกร็งล้าที่หัวไหล่และกล้ามเนื้อบริเวณหลังแขน
**กินตามธาตุ : ภูมิปัญญาไทยในยุค 2025
อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวคงไม่พอที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง ดังนั้น “นก” ชลิดา เถาชาลี ตันติพิภพ อดีตนางสาวไทยก็ได้มาแนะนำเคล็ดการกินตามธาตุเจ้าเรือน อันเป็นภูมิปัญญาไทย ที่คนรุ่นใหม่ก็นำมาประยุกต์ใช้ได้แบบไม่ตกยุค
ธาตุดิน - คือคนที่เกิดในราศีพฤษภ (14 พ.ค.-14 มิ.ย.) , คนที่เกิดในราศีกันย์ (17 ก.ย. – 13 ต.ค.) และราศีมังกร (14 ม.ค.-12 ก.พ.) ซึ่งตามตำรากล่าวไว้ว่า โดยมากมักเป็นคนเจ้าเนื้อ น้ำหนักเพิ่มง่ายแต่ลดยาก จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน และโรคอื่นๆ ที่ตามมากับความอ้วน เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน รวมถึงโรคทางเดินหายใจด้วย ดังนั้นจึงควรกินคาร์โบไฮเดรตให้น้อย กินผักผลไม้มากๆ
สำหรับตัวอย่างผักและผลไม้ที่คนธาตุดินควรกินคือ ผักรสฝาด เช่น ยอดมะม่วงหิมพานต์ , กล้วยดิบ , ยอดฝรั่ง ผักรสหวาน เช่น ยอดมะพร้าว , บวบ แตง เห็ด และรสมัน ได้แก่ สะตอ ผักกาด ขนุนอ่อน เป็นต้น ส่วนผลไม้ควรเป็น มะละกอสุก , เงาะ,มะพร้าว , กล้วยน้ำว้า เป็นต้น
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจร้องยี้กับเมนูผักผลไม้ที่อาจจะไม่ชอบ แต่อดีตนางสาวไทยผู้ใส่ใจเรื่องอาหารการกินคนนี้ก็ได้แนะนำเครื่องดื่มง่ายๆ สำหรับทำดื่มเองที่บ้านที่เหมาะสำหรับคนธาตุดิน นั่นก็คือ “สมูทตี้แคนตาลูป” วิธีทำก็ง่ายนี้เดียว ใส่แคนตาลูปหั่นเป็นชิ้นประมาณ 2 ถ้วยเล็กลงในเครื่องปั่น จากนั้นเทนมถั่วเหลือและน้ำผึ้งลงไปแล้วใส่น้ำแข็ง ปั่นให้เข้ากัน ก็จะได้เครื่องดื่มเย็นๆ เหมาะกับสาวสุดฮิปที่กินตามธาตุเจ้าเรือนได้แบบไม่ตกยุค
ธาตุน้ำ – คือคนที่เกิดในราศีกรกกฎ (16 ก.ค.-16 ส.ค.) , คนที่เกิดในราศีพิจิก (16 พ.ย.-15 ธ.ค.) และคนที่เกิดในราศีมีน (14 มี.ค. – 15 เม.ย.) คนธาตุน้ำจะอ้วนง่าย แต่จะลดลงเร็ว มักจะป่วยด้วยโรคคล้ายคนธาตุดินคือโรคอ้วน ทำให้คนธาตุน้ำจำต้องออกกำลังกาย แต่จะไม่มากเท่าคนธาตุดิน คนธาตุน้ำมักจะมีอาการไอ และเป็นไข้หวัด รสที่เหมาะกับคนธาตุน้ำคือ เปรี้ยว ฝาด และขม ส่วนผักผลไม้ที่เหมาะกับคนธาตุนี้ ได้แก่ มะเขือเทศ ขี้เหล็ก แคบ้าน ชะมวง ยอดมะกอก ผักติ้ว สะเดา กระเจี๊ยบ มะยม ส้ม ลิ้นจี่ องุ่น ชมพู่ มะม่วง เป็นต้น
สำหรับอาหารแนะนำที่ทำกินเองได้ง่ายๆ ได้แก่ข้าวยำปักษ์ใต้ ที่คุณนกบอกว่า ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ เพราะมีผักเยอะราวกับขนสวนครัวเอามาไว้ในจาน โดยวิธีทำ เริ่มแรกให้ต้มปลาอินทรีเค็มให้เปื่อย แกะเอาแต่เนื้อ จากนั้นเติมน้ำบูดู เติมน้ำ ตั้งไฟต่อไป ใส่หอม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำตาลปีบ ต้มต่อจนข้น ชิมรสให้เค็มนำ และหวานตาม จากนั้นยกลง จัดเสิร์ฟโดยตักข้าวใส่จาน ใส่มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งป่น และผักทั้งหมดคือ ถั่วงอก ตะไคร้หั่นฝอย ใบมะกรูดอ่อน มะม่วงดิบสับ ถั่วฝักยาวหั่นฝอย ราดน้ำบูดู ปรุงรสด้วยมะนาว และเคล้าให้เข้ากัน เท่านี้ก็อร่อยพร้อมๆ ไปกับสุขภาพที่ดี แถมยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยหรือผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นอาหารที่ไม่มีไขมัน
ธาตุลม – คือคนที่เกิดในราศีเมถุน (15 มิ.ย. – 15 ก.ค.) , คนที่เกิดในราศีตุลย์ (17 ต.ค.- 15 พ.ย.) และคนที่เกิดในราศีกุมภ์ ( 13 ก.พ. – 13 มี.ค.) มักมีปัญหาเรื่องขี้หนาว หิวเก่ง กินไม่อ้วน เผาผลาญอาหารได้ดี เป็นลมง่าย มักท้องอืด จุกเสียดง่าย รสชาติของคนธาตุลมคือ หวาน เผ็ดร้อน หอมเย็น ผักและผลไม้ประจำธาตุ ได้แก่ ชะพลู ตะไคร้ โหระพา กระเพรา กระชาย หอมเล็ก กระเทียม ขมิ้น บัว ผักบุ้ง แตงไทย แตงโม เงาะ น้อยหน่า แก้วมังกร เป็นต้น
สำหรับเมนูเด็ดที่อดีตนางสาวไทยแนะนำ เหมาะทั้งสำหรับทำเป็นของว่างกินเล่น หรือจะทำเพื่อรับรองเพื่อนฝูงตามนิสัยคนชอบปาร์ตี้อย่างคนธาตุลมก็เป็นเมนู หรูหราไม่อายใครและทำง่ายเสียด้วย เมนูที่ว่านี้ก็คือ “ส้มกุ้งคอกเทล” โดยเริ่มจากปอกเปลือกส้ม ผ่ากลีบ เขี่ยเมล็ดทิ้ง จากนั้นต้มกุ้งในน้ำเดือด ใส่เกลือ พอสุกแล้วตักขึ้น คลุกกับพริกไทยและผักชี จากนั้นสอดใบขึ้นฉ่ายกับกุ้งที่คลุกแล้วไว้กลางกลีบส้ม เอาไม้จิ้มฟันกลัดไม่ให้หลุด จัดลงแก้วคอกเทลสวยๆ พร้อมเสิร์ฟเป็นของว่างกินเองเล่นๆ หรือแช่เย็นไว้รอดินเนอร์ปาร์ตี้ฉบับเฮฮากับเพื่อนฝูงก็เรียกน้ำลายได้ทุก กรณี
ธาตุไฟ – คือคนที่เกิดในราศีเมษ (16 เม.ย.—13 พ.ค.) , คนที่เกิดในราศีสิงห์ ( 17 ส.ค.- 16 ก.ย.) และคนที่เกิดในราศีธนู (16 ธ.ค. – 13 ม.ค.) คนธาตุไฟเป็นคนหิวบ่อย เผาผลาญอาหารได้ดี อ้วนยาก หลับไม่สนิท ฝันบ่อย ท้องเสียง่าย รสชาติประจำธาตุคือรสขมและรสจืด ผักและผลไม้ที่แนะนำได้แก่ สะเดา มะระ มะเขือพวง บวบ แค ตำลึง กวางตุ้ง หางจระเข้ คำฝอย ขี้เหล็ก บัวบก รากบัว เม็ดแมงลัก แตงโม มันแกว ชมพู่ มะละกอ แตงไทย มะพร้าว ลูกจาก ตาลอ่อน เป็นต้น
สำหรับเครื่องดื่มดับร้อนเมนูแนะนำจากอดีตนางสาวไทยของคนธาตุไฟนั้น มีชื่อว่า “สมูทตี้แตงกวาโยเกิร์ต” วิธีทำก็ง่ายแสนง่าย เริ่มจากปอกเปลือกแตงกวา หั่นเป็นชิ้น โยนลงเครื่องปั่น ตามด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติและน้ำผึ้ง จากนั้นปั่นรวมกับน้ำแข็ง เพียงเท่านั้นหนุ่มสาวธาตุไฟทั้งหลายก็จะได้ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ เพื่อดับความร้อนระอุประจำธาตุกันแล้ว
มาเป็นเพื่อนกันครับ บนช่องทาง Social ด้านล่างนี้ครับ
--------------------------► LINE@ : @siamfocus.com
► Facebook : fanpage.siamfocus
► Twitter (X) : siamfocus
► Linkedin : taam-siamfocus
► Instagram : iamtaam
► Youtube : SiAMFOCUS
► Tiktok : @taamsiamfocus
--------------------------
